เมนู

9. ภทฺทากุณฺฑลเกสาเถรีคาถาวณฺณนา

ลูนเกสีติอาทิกา ภทฺทาย กุณฺฑลเกสาย เถริยา คาถาฯ อยมฺปิ ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต กาเล หํสวตีนคเร กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา วิญฺญุตํ ปตฺวา เอกทิวสํ สตฺถุ สนฺติเก ธมฺมํ สุณนฺตี สตฺถารํ เอกํ ภิกฺขุนิํ ขิปฺปาภิญฺญานํ อคฺคฏฺฐาเน ฐเปนฺตํ ทิสฺวา, อธิการกมฺมํ กตฺวา ตํ ฐานนฺตรํ ปตฺเถตฺวา ยาวชีวํ ปุญฺญานิ กตฺวา กปฺปสตสหสฺสํ เทวมนุสฺเสสุ สํสริตฺวา กสฺสปพุทฺธกาเล กิกิสฺส กาสิรญฺโญ เคเห สตฺตนฺนํ ภคินีนํ อพฺภนฺตรา หุตฺวา, วีสติ วสฺสสหสฺสานิ ทส สีลานิ สมาทาย โกมาริพฺรหฺมจริยํ จรนฺตี สงฺฆสฺส วสนปริเวณํ กาเรตฺวา, เอกํ พุทฺธนฺตรํ สุคตีสุเยว สํสริตฺวา อิมสฺมิํ พุทฺธุปฺปาเท ราชคเห เสฏฺฐิกุเล นิพฺพตฺติฯ ภทฺทาติสฺสา นามํ อโหสิฯ สา มหตา ปริวาเรน วฑฺฒมานา วยปฺปตฺตา, ตสฺมิํเยว นคเร ปุโรหิตสฺส ปุตฺตํ สตฺตุกํ นาม โจรํ สโหฑฺฒํ คเหตฺวา ราชาณาย นครคุตฺติเกน มาเรตุํ อาฆาตนํ นิยฺยมานํ, สีหปญฺชเรน โอโลเกนฺตี ทิสฺวา ปฏิพทฺธจิตฺตา หุตฺวา สเจ ตํ ลภามิ, ชีวิสฺสามิ; โน เจ, มริสฺสามีติ สยเน อโธมุขี นิปชฺชิฯ

อถสฺสา ปิตา ตํ ปวตฺติํ สุตฺวา เอกธีตุตาย พลวสิเนโห สหสฺสลญฺชํ ทตฺวา อุปาเยเนว โจรํ วิสฺสชฺชาเปตฺวา คนฺโธทเกน นฺหาเปตฺวา สพฺพาภรณปฏิมณฺฑิตํ กาเรตฺวา ปาสาทํ เปเสสิฯ ภทฺทาปิ ปริปุณฺณมโนรถา อติเรกาลงฺกาเรน อลงฺกริตฺวา ตํ ปริจรติฯ สตฺตุโก กติปาหํ วีตินาเมตฺวา ตสฺสา อาภรเณสุ อุปฺปนฺนโลโภ ภทฺเท, อหํ นครคุตฺติเกน คหิตมตฺโตว โจรปปาเต อธิวตฺถาย เทวตาย ‘‘สจาหํ ชีวิตํ ลภามิ, ตุยฺหํ พลิกมฺมํ อุปสํหริสฺสามี’’ติ ปตฺถนํ อายาจิํ, ตสฺมา พลิกมฺมํ สชฺชาเปหีติฯ สา ‘‘ตสฺส มนํ ปูเรสฺสามี’’ติ พลิกมฺมํ สชฺชาเปตฺวา สพฺพาภรณวิภูสิตา สามิเกน สทฺธิํ เอกํ ยานํ อภิรุยฺห ‘‘เทวตาย พลิกมฺมํ กริสฺสามี’’ติ โจรปปาตํ อภิรุหิตุํ อารทฺธาฯ

สตฺตุโก จินฺเตสิ – ‘‘สพฺเพสุ อภิรุหนฺเตสุ อิมิสฺสา อาภรณํ คเหตุํ น สกฺกา’’ติ ปริวารชนํ ตตฺเถว ฐเปตฺวา ตเมว พลิภาชนํ คาหาเปตฺวา ปพฺพตํ อภิรุหนฺโต ตาย สทฺธิํ ปิยกถํ น กเถสิฯ สา อิงฺคิเตเนว ตสฺสาธิปฺปายํ อญฺญาสิฯ สตฺตุโก, ‘‘ภทฺเท, ตว อุตฺตรสาฏกํ โอมุญฺจิตฺวา กายารูฬฺหปสาธนํ ภณฺฑิกํ กโรหี’’ติฯ สา, ‘‘สามิ, มยฺหํ โก อปราโธ’’ติ? ‘‘กิํ นุ มํ, พาเล,‘พลิกมฺมตฺถํ อาคโต’ติ สญฺญํ กโรสิ? พลิกมฺมาปเทเสน ปน ตว อาภรณํ คเหตุํ อาคโต’’ติฯ ‘‘กสฺส ปน, อยฺย, ปสาธนํ, กสฺส อห’’นฺติ? ‘‘นาหํ เอตํ วิภาคํ ชานามี’’ติ